Fat modification process systems

เอกสาร

การออกแบบกระบวนการสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ไขมันชนิดพิเศษทุกกลุ่ม

คุณสามารถเลือกได้จากโซลูชั่นที่หลากหลายของ Alfa Laval หรือเลือกโซลูชั่นต่างๆ ผสมกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าของคุณต้องการผลิตและวัตถุดิบที่มี

กระบวนการแยกส่วน

วิธีธรรมชาติในการดัดแปลงน้ำมันและไขมัน

ปรับเปลี่ยนวัตถุดิบตั้งต้นจากน้ำมันปาล์มหรือไขมันสัตว์โดยใช้วิธีธรรมชาติโดยตรงเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์สุดท้าย สร้างผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามข้อกำหนดเฉพาะเจาะจงของลูกค้าด้วยการแบ่งวัตถุดิบตั้งต้นออกเป็นส่วนๆ ทั้งของเหลวและของแข็งหรือการรวมส่วนต่างๆ เข้าด้วยกัน

การแยกส่วนประกอบด้วยน้ำมันหรือไขมันที่ทำให้เย็นลงอย่างช้าๆ ในกระบวนการที่มีการควบคุมอย่างแม่นยำ มีการควบคุมอุณหภูมิเพื่อให้ไขมันอยู่ในสถานะของเหลวบางส่วน โดยทำให้ปริมาณไขมันที่เป็นของแข็งตกผลึก  ระบบกรองด้วยเมมเบรนแยกผลึกออกจากส่วนของเหลว ผลลัพธ์ที่ได้คือผลิตภัณฑ์สองชนิดที่มีคุณสมบัติทางกายภาพและจุดหลอมเหลวต่างกัน ซึ่งสามารถทำได้โดยไม่ต้องดัดแปลงทางเคมีใดๆ จึงเป็นวิธีที่ "เป็นธรรมชาติ" สำหรับผลิตน้ำมันเหลวและไขมันชนิดแข็ง

ระบบการแยกส่วนแบบแห้งประเภทชุด

สำหรับระบบการแยกส่วนแบบแห้งประเภทชุด วัตถุดิบตั้งต้นหรือน้ำมันปาล์มกลั่นจะเข้าสู่สายการผลิต เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบแผ่นภายนอกจะทำความร้อนวัตถุดิบตั้งต้นถึง 65°C อีกทางหนึ่ง วัตถุดิบตั้งต้นจะได้รับความร้อนภายในอุปกรณ์เพื่อการตกผลึกเพื่อให้แน่ใจว่าโครงสร้างผลึกจะละลายก่อนที่จะเย็นตัวลง

ต่อมาอุปกรณ์เพื่อการตกผลึกจะลดอุณหภูมิวัตถุดิบตั้งต้นจนกระทั่งเกิดผลึกแรก ทำให้เกิดการตกผลึก และลดอุณหภูมิต่อไปจนถึงระดับการตกผลึกที่ต้องการ รอบเวลาของกระบวนการแยกส่วนแห้งของน้ำมันปาล์มขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัตถุดิบและคุณภาพผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายที่ต้องการ

หลังจากการตกผลึก สารละลายจะผ่านเครื่องกรองเมมเบรน โดยแยกออกเป็นสองผลิตภัณฑ์:

• น้ำมันปาล์มโอเลอินจะผ่านเมมเบรนและส่งต่อไปยังถังเก็บ
• สเตียรินจากปาล์มซึ่งยังคงอยู่บนเมมเบรน จะต้องผ่านกระบวนการเพิ่มเติมเพื่อกำจัดโอลีนออกจากเศษส่วนที่เป็นของแข็งเพื่อเก็บรักษาให้ได้มากที่สุด จากนั้นสเตียรินจะถูกทิ้งลงในถัง ละลายด้วยไอน้ำหรือน้ำร้อน และส่งไปยังที่เก็บ

ระบบการแยกส่วนแบบแห้งต่อเนื่องพร้อมตัวเลือกประเภทชุด

กระบวนการแยกส่วนแบบแห้งต่อเนื่องของน้ำมันปาล์มนั้นคล้ายคลึงกับการแยกส่วนแบบแห้งเป็นชุด อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างสองประการในการกำหนดค่าดังนี้

• ส่วนทำความเย็นล่วงหน้าด้วยเครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนแบบแผ่นเพื่อลดอุณหภูมิของน้ำมันปาล์มก่อนที่จะเข้าสู่อุปกรณ์เพื่อการตกผลึก
• ปั๊มหนึ่งตัวสำหรับอุปกรณ์เพื่อการตกผลึกแต่ละเครื่อง สำหรับการถ่ายโอนน้ำมันอย่างต่อเนื่องจากอุปกรณ์เพื่อการตกผลึกไปยังถังบัฟเฟอร์ สิ่งเหล่านี้จะช่วยเร่งกระบวนการ ลดเวลาที่ต้องใช้ในกระบวนการน้ำมัน ตลอดจนการใช้ไฟฟ้าและไอน้ำ

เมื่อเปรียบเทียบกับโหมดชุด การแยกส่วนแบบแห้งอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ผลผลิตโอลีนสูงขึ้น (โดยปกติจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่ามากที่สุด) ลดการใช้ไฟฟ้าและไอน้ำได้มากถึง 40% และเพิ่มความยืดหยุ่นในกระบวนการมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีค่าไอโอดีน (IV) 56

DualFrac โซลูชัน Alfa Laval สำหรับการแยกส่วนแบบแห้งอย่างต่อเนื่อง

ระบบ Alfa Laval DualFrac ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานเปลี่ยนจากการแยกส่วนแบบแห้งอย่างต่อเนื่องไปเป็นการแยกส่วนแบบแห้งเป็นชุดได้อย่างง่ายดายเพื่อผลิตน้ำมันปาล์มโอลีนที่มีค่า IV สูงขึ้น เช่น 58, 60 และ 64

ข้อดีของ Alfa Laval DualFrac

กระบวนการเติมไฮโดรเจน

วิธีที่หลากหลายในการดัดแปลงไขมัน

น้ำมันและไขมันจากวัตถุดิบและส่วนผสมแทบทุกชนิดสามารถดัดแปลงเป็นไขมันชนิดแข็งได้โดยการเปลี่ยนโครงสร้างโมเลกุล ซึ่งทำได้โดยการเติมไฮโดรเจนซึ่งเป็นชื่อเรียกกระบวนการที่มีการรวมไฮโดรเจนกับน้ำมันและไขมันไม่อิ่มตัวทางเคมี โดยการเชื่อมโยงไฮโดรเจนกับพันธะคู่ของห่วงโซ่กรดไขมันไม่อิ่มตัว โดยพื้นฐานแล้วกระบวนการนี้ประกอบด้วยก๊าซไฮโดรเจนแบบมีฟองที่เดินทางผ่านน้ำมันที่อุณหภูมิ 150–200°C (302–392 °F) โดยปกติ ภายใต้แรงดันและมีการใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา ซึ่งตรงนี้จะเพิ่มอะตอมของไฮโดรเจนเข้าไปในพันธะคู่ของกรดไขมันไม่อิ่มตัว ไม่ว่าจะเพื่อลดกรดไขมันดังกล่าวหรือผลิตไขมันที่อิ่มตัวเต็มที่ การเติมไฮโดรเจนจะเพิ่มจุดหลอมเหลวของน้ำมันและไขมัน และปรับปรุงคุณสมบัติอื่นๆ มากมาย รวมถึงคุณภาพรสชาติและอายุการเก็บรักษา แผนภาพทางด้านขวาและด้านล่างแสดงระบบสองระบบที่เกี่ยวข้องกับการกรองและการแยกแบบหมุนเหวี่ยงอย่างต่อเนื่องที่ Alfa Laval ใช้สำหรับการกำจัดตัวเร่งปฏิกิริยา

กระบวนการอินเทอร์เอสเทอริฟิเคชัน

ต้องการการติดตั้งระบบการผลิตที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นพร้อมกับความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องหรือไม่ อินเทอร์เอสเทอริฟิเคชันช่วยคุณได้

ด้วยการผสมน้ำมันและไขมันที่ต่างกันเข้าด้วยกัน อินเทอร์เอสเทอริฟิเคชันช่วยให้สามารถผลิตไขมันชนิดแข็งจากวัตถุดิบหลากหลายชนิด และในรูปแบบที่เข้ากับความต้องการของตลาดสมัยใหม่

อินเทอร์เอสเทอริฟิเคชันแบบเดิมจะดำเนินการโดยใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาทางเคมี (ปกติแล้วใช้โซเดียม เมทิลเลท) เพื่อทำให้เกิดการจัดกลุ่มใหม่ของตำแหน่งของกรดไขมันบนโมเลกุลกลีเซอรอลพื้นฐาน

ส่วนผสมของน้ำมันและไขมันจะถูกสูบจากถังผสมไปยังเครื่องทำความร้อนแบบไอน้ำ จากนั้นไปยังเครื่องปฏิกรณ์ภายใต้สภาวะสุญญากาศเพื่อทำให้แห้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการอบแห้ง น้ำมันจะถูกสูบผ่านส่วนหมุนเวียน

หลังจากทำให้น้ำมันแห้งแล้ว ตัวเร่งปฏิกิริยาจะถูกนำเข้าสู่กระแสการหมุนเวียนน้ำมันโดยใช้อุปกรณ์จ่ายตัวเร่งปฏิกิริยาแบบพิเศษ เมื่อการเร่งปฏิกิริยาโดยตัวเร่งปฏิกิริยาเสร็จสิ้นแล้ว น้ำมันจะถูกปล่อยออกไปยังเครื่องปฏิกรณ์สำหรับขั้นตอนหลังการปรับสภาพ ซึ่งตรงนี้ตัวเร่งปฏิกิริยาจะยุติการทำงานด้วยกรด และจะมีการปรับสภาพน้ำมันโดยใช้ดินฟอก

อีกทางเลือกหนึ่งคือยุติการทำงานของตัวเร่งปฏิกิริยาด้วยน้ำในถังน้ำ สบู่ที่สร้างขึ้นในกระบวนการนี้จะถูกนำออกโดยใช้เครื่องหมุนเหวี่ยงแบบจาน ต่อจากนั้นน้ำมันจะถูกทำให้แห้งและส่งไปยังขั้นตอนหลังการปรับสภาพ

อินเทอร์เอสเทอริฟิเคชันไม่มีผลต่อระดับความอิ่มตัวของไขมันหรือตำแหน่งของพันธะเคมีซิส-ทรานส์ โดยหลักแล้วจะดำเนินการเพื่อควบคุมความสม่ำเสมอของน้ำมันหรือไขมันที่อุณหภูมิต่างกันซึ่งเป็นตัวแปรที่สำคัญสำหรับลูกค้าของคุณในอุตสาหกรรมอาหาร